วันนี้วันเปิดเทอมวันแรกหนูจี๊ดและใบเตยรู้สึกดีใจมาก เพราะจากที่ลุ้นเรื่องที่จะได้อยู่ห้องเดียวกันมานาน วันนี้ก็ได้รู้ผลเป็นที่น่าพอใจ
“ได้อยู่ห้องเดียวกันจริงๆ ด้วยใบเตย...ดีใจจัง“
“ใบเตยก็ดีใจ อย่างน้อยเราก็มีจี๊ดอยู่เป็นเพื่อนสนิทเรา เพราะตอนนี้เรายังไม่รู้จักใครเลย“
หนูจี๊ดมัวแต่ดีใจเพลิน จนลืมสังเกตไปว่า คู่ปรับตัวฉกาจของหนูจี๊ดก็อยู่ห้องนี้เหมือนกัน
“ดูห้องเสร็จแล้วเดี๋ยวรีบไปส่งจ๊อบก่อนดีกว่าใบเตย เผื่อว่าคุณครูประจำชั้นมีอะไรจะชี้แจ้งให้เด็กใหม่รู้ก่อนเรียน จ๊อบจะได้ไปเจอเพื่อนๆ ใหม่ด้วย“
“ไปกันเหอะพี่จี๊ด จ๊อบอยากเจอเพื่อนใหม่เต็มทีแล้ว“
“อ้าววว.....อยู่ห้องนี้เหมือกันหรอจ๊ะหนูจี๊ด“
เสียงคุ้นหูทักหนูจี๊ดอย่างไม่เป็นมิตรเลย ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร ทำไมซวยอย่างงี้เนี่ย
“ไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้มาอยู่ห้องเดียวกับเธอสองคน“
นั่นน่ะสิ...อุส่าห์โชคดีไปปีนึง ทำไมปีนี้วนมาอยู่ห้องเดียวกันอีกจนได้ ชีวิตไม่สงบสุขอีกแล้วเรา หนูจี๊ดนึกในใจ
“ใครกันหรอหนูจี๊ด ท่าทางแปลกๆนะ“
ใบเตยกระซิบถาม
“คนนิสัยไม่ดีน่ะใบเตย อย่าไปสนใจเลย“
“สวัสดีค่ะเด็กๆ ขึ้น ป.4 กันแล้ว คุณครูก็อยากให้พวกหนูตั้งใจเรียนกันให้มากขึ้นกว่าเดิมนะคะ วันนี้วันเปิดเทอมวันแรก เรามีเพื่อนใหม่ย้ายมาเรียนในห้องเดียวกับเราด้วยน๊ะจ๊ะ มานี่สิจ๊ะใบเตย“
“สวัสดีจ๊ะ เราชื่อใบเตยนะ เพิ่งย้ายเข้ามาเรียนในโรงเรียนนี้วันแรกค่ะ...ยังไงก็ฝากตัวกับเพื่อนๆทุกคนด้วยนะคะ“
ใบเตยพูดเสร็จก็เข้ามานั่งข้างๆ หนูจี๊ด
“ยัยเด็กใหม่นี่น่าหมั่นไส้จริงๆ ทำมาเป็นฝากเนื้อฝากตัว ที่แท้ก็เป็นเพื่อนยัยหนูจี๊ด เรามีของเล่นใหม่ไว้แกล้งยัยหนูจี๊ดแล้วล่ะ“
แพตตี้พูดกับมิวอย่างมีแผนการ
“แหมๆ มิวว่ายัยใบเตยนี่เก็บไว้ก่อนดีกว่าแพตตี้ ได้ข่าวมาว่าน้องชายยัยหนูจี๊ดเพิ่งย้ายเข้ามาขึ้นมา ป.1 การแกล้งเด็กๆ ที่ไม่รู้เรื่องอาจจะสนุกกว่าก็ได้นะ ยัยใบเตยอยู่ใกล้ๆ เรานี่เองจะแกล้งเมื่อไหร่ก็ได้“
มิวพูดอย่างคนมีแผนที่เหนือชั้นกว่า
....แล้วหนูจี๊ดจะรับมือยังไงกับแผนการร้ายของสองคู่ปรับตัวฉกาจ ที่มักหาเรื่องหนูจี๊ดเป็นประจำมาแต่ไหนแต่ไรละนี่....
“สวัสดีหนูจี๊ด ได้ข่าวว่าน้องชายของเธอเพิ่งเขาเรียน ป.1 ปีนี้ไม่ใช่หรอ“
มิวเป็นคนเปิดประเด็นถามหนูจี๊ดตอนพัก
“ทำไมเธอสองคนมีปัญหาอะไรกับน้องเรา อย่ายุ่งกับน้องเราดีกว่านะ“
“อ้าว ทำไมพูดยังงั้นล่ะจ๊ะหนูจี๊ด เราก็ถามตามประสาเพื่อนกัน เห็นน้องของเพื่อนเพิ่งเข้าโรงเรียนมา ได้ข่าวว่าอยู่ห้องสามหนิ“
“รู้กันได้ยังงัย จะทำอะไร คิดร้ายอะไรกับเราเราก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่อย่ามายุ่งกับน้องเราจะดีกว่า น้องเรายังเด็กอยู่ แกล้งเด็กมันไม่ดีหรอกนะ“
“แหมๆ เราสองคนไม่ได้ใจร้ายขนาดแกล้งเด็กหรอกนะ คิดมากไปได้“
น้ำเสียงที่แกล้งทำเป็นจริงใจ แต่หนูจี๊ดก็จับความรู้สึกได้
“ก็ขอให้มันเป็นอย่างงั้นจริงๆก็แล้วกัน“
หนูจี๊ดพูดอย่างไม่สบอารมณ์ ถ้าเลือกได้ไม่อยากคุยกับสองคนนี้เลยจริงๆ
“แค่พูดชื่อห้องสามมาเฉยๆ ไม่คิดว่าจะเดาถูกนะเนี่ย“
“ถือว่าเป็นโชคดีของเราแล้วล่ะ“
“แล้วคิดแผนไว้ว่ายังงัยล่ะมิว“
“เดี๋ยวก็รู้ พรุ่งนี้มิวมีของเล่นสนุกๆ ต้อนรับน้องใหม่ห้องสาม แพตตี้คอยดูก็แล้วกัน“
มิวพูดอย่างมาดหมาย
“น้องจ๊อบคะ น้องจ๊อบ“
“ครับ“
“พี่เป็นเพื่อนของพี่จี๊ดจ๊ะ พอดีพี่จี๊ดฝากของมาให้น่ะ“
มิวพูดกับจ๊อบอย่างใจดี
“ฝากอะไรมาหรอฮะ ทำไมพี่จี๊ดไม่เอามาให้เองล่ะ“
“พอดีคุณครูให้พี่จี๊ดไปช่วยงานจ๊ะ เลยฝากพี่สองคนมาให้“
“ใช่จ๊ะ อันนี้มันเป็นฝักถั่วที่คุณครูพี่ให้เอามาทดลอง เวลาจับแล้วบีบแปะๆ จะมีเสียงด้วย“
“เอาไว้เล่นกับเพื่อนๆ สนุกดี พี่จี๊ดเลยเอามาให้น้องจ๊อบเล่นกับเพื่อนๆ บ้าง“
“พี่จี๊ดมาแปลกแฮะ ใจดีให้ของเล่นเนี่ยนะ“
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน เห็นพี่เค้าฝากมาให้น่ะ เดี๋ยวพี่สองคนต้องไปแล้วจ๊ะ ต้องรีบไปส่งการบ้านต่อแล้ว“
“ขอบคุณมากนะครับพี่ๆ“
“นี่มิว ไม่คิดว่าจ๊อบจะเก็บไว้เฉยๆ หรอ บางทีอาจจะสงสัยว่าเป็นหมามุ่ยก็ได้นะ“
“ไม่หรอก จากที่ดูๆ จ๊อบน่าจะแสบพอควร อีกอย่างฝักหมามุ่ยที่เราให้ไปมันก็คล้ายฝักถั่วจะตาย ไม่น่าจะสงสัยหรอกหน่า...“
“นี่ๆ พวกเรามาเล่นกันเหอะ พี่จี๊ดให้ของเล่นใหม่เรามาด้วยแหละ“
“อะไรหรอ เอาถั่วมาให้กินหรอไงจ๊อบ“
“เปล่าๆ มันเป็นฝักถั่ว บีบแล้วมีเสียงแปะๆ ด้วยนะ แปลกดีอ่ะ“
จ๊อบนำเสนอกับเพื่อนๆ ซึ่งในถุงก็มีถั่วมากพอสมควร
“เล่นด้วยๆๆ ทำไมมานมีเสียงดังจัง“
“โอ้ยๆๆ เราคันมากเลยจ๊อบถั่วอะไรเนี่ย“
จ๊อบก็เริ่มคันแล้วเหมือนกัน ทำไมมันคันอย่างงี้เนี่ย แล้วเพื่อนๆที่รวมวงกับจ๊อบก็เริ่มคันและแดงมากๆ
“ตายแล้ว ! เด็กๆ ทำไมมือแดงอย่างงี้ละคะ“
“ถั่วอะไรก็ไม่รู้ค่ะคุณครู จ๊อบเอามาให้เล่น คันมากเลย“
“ไหนครูดูสิคะ...เอ๊ะ! นี่มันหมามุ่ยนี่น่า...จ๊อบเอามาจากไหนคะเนี่ย ! มันอันตรายมากๆ มันจะคันรุนแรง รีบไปห้องพยาบาลเร็วค่ะ“
คุณครูรีบพาเด็กๆ ทั้งหมดไปห้องพยาบาล
“วิธีเบื้องต้นเราต้องเอาข้าวเหนียวมาคลึงให้เป็นก้อนเข้ากันแล้วเอามาถูตรงมือเด็กที่มีขนพิษอยู่ค่ะ เราต้องช่วยกันหลายๆ คนแล้วค่ะ“
คุณครูพยาบาลบอกคุณครูคนอื่นๆ รวมถึงรุ่นพี่โตๆ ที่เป็นอาสาอยู่ห้องพยาบาล
“หมามุ่ย มันมีขนพิษมากอยู่ที่ฝัก นี่เด็กๆ ก็จับบีบกันไปเต็มๆ เลย“
หลังจากปฐมพยาบาลกันเสร็จเป็นที่เรียบร้อย
“จ๊อบ ทำไมทำอย่างี้ล่ะคะ เอาของอันตรายแบบนี้มาให้เพื่อนๆ เล่นได้ยังไงกัน ดูสิเป็นผื่นแดงกันเกือบทั้งห้องเลย“
“จ๊อบขอโทษจริงครับ ไม่รู้ว่ามันอันราย พอดีพี่สาวจ๊อบให้มา...พี่บอกว่ามันเล่นได้น่ะฮะ“
“จ๊อบบบ !....เป็นยังไงบ้าง “
หนูจี๊ดรีบวิ่งเข้ามาดูน้องชายหลังจากที่ทราบข่าว
“ไม่เป็นไรแล้วล่ะพี่จี๊ด“
“หนูจี๊ดทำไมให้ของแบบนี้กับน้องมาเล่นได้ นี่มันหมามุ่ยนะคะ ดีนะที่ไม่มีใครเป็นภูมิแพ้รุนแรง ไม่งั้นได้ส่งโรงพยาบาลกันแน่ๆ“
“อะไรกันน่ะ ! จ๊อบ พี่ให้อะไรเธอไปเล่น“
“อย่าบ่ายเบี่ยงประเด็นเลยหนูจี๊ด คราวนี้ครูยอมให้อภัย หวังว่ามันจะไม่มีครั้งหน้าๆ อีกก็แล้วกัน ครูผิดหวังในตัวหนูจริงๆ“
“หนูไม่ได้ทำจริงๆ นะคะคุณครู....ต้องมีใครวางแผนแน่ๆ“
หนูจี๊ดรู้สึกเสียใจที่คุณครูไม่ยอมฟังคำอธิบายเลย
“ครูไม่มีอะไรจะพูดแล้ว...ไว้เราค่อยมาอบรมเรื่องนี้กันอีกทีก็แล้วกัน เข้าเรียนกันดีกว่านะ หนูจี๊ดก็ไปเรียนได้แล้ว“
หนูจี๊ดกลับบ้านด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว หนูจี๊ดรู้สึกเสียใจที่คุณครูไม่ไว้ใจในตัวหนูจี๊ดแล้ว เพราะคุณครูคนนี้เป็นคุณครูที่หนูจี๊ดรัก และเคารพมากๆ
“ทำไมคุณครูถึงไม่ยอมฟังหนูจี๊ดเลย ใครกันนะที่วางแผนแกล้งหนูจี๊ดได้ขนาดนี้“
“ไม่เป็นไรหรอกหนูจี๊ด เดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้นเองนะ ยังไงความจริงก็ต้องเปิดเผยจนได้แหละ“
“เสียงใครน่ะ“
ตอนนี้มันก็กลางคืนมากแล้ว แต่หนูจี๊ดกลับได้ยินเสียงเบาๆเหมือนมีใครพูดด้วย หลอนนะเนี่ยยย
“เราอาจจะเบลอๆ หูแว่วก็ได้นะ“
หนูจี๊ดพูดกับตัวเอง
งานเข้าซะแล้วหนูจี๊ด....คู่หูตัวแสบทำเรื่องจนได้ แล้วหนูจี๊ดได้เสียงแว่วของใคร เอ.....หรือหรือหนูจี๊ดหนูแว่วไปเอง คอยติดตามในตอนต่อไปว่าหนูจี๊ดจะทำอย่างไรดี
ความรู้เกี่ยวกับต้นหมามุ้ย
หมามุ้ย หรือ หมามุ่ย ชื่อวิทยาศาสตร์ Mucuna pruriens DC. เป็นพืชเถาซึ่งมีขนคันจากฝัก เมื่อถูกผิวหนังทำให้คัน เนื่องจากขนมี mucunain enzyme สามารถย่อยโปรตีนได้ serotonin และมีสารคล้าย histamine การเกิดพิษ ขนเมื่อถูกผิดจะเกิดอาการระคายเคืองมาก คัน ปวดแสบปวดร้อน บวมแดง [1]
ลัษณะทั่วไป ใบมีรูปร่างคล้ายรูปไข่หรือรูปไข่ปนขนมเปียกปูน โคนใบอาจมีทั้งมน กลม หรือหน้าตัดก็ได้ ตัวใบบางและมีขนทั้งสองด้าน ดอกสีม่วงดำ ออกเป็นช่อตามง่ามใบ มีเมล็ด 4-7 เมล็ด ฝักจะมีขนอ่อนคลุม ฝักแก่นี้เองจะกลายเป็นพืชที่มีพิษ เมื่อผิวหนังสัมผัสกับขนพิษ ปลายยอดของขนจะแตกออก และฉีดสารพิษออกมา ทำให้ผิวหนังบวมแดง คันและปวดแสบปวดร้อน
การรักษา รีบกำจัดขนพิษออกจากบริเวณที่สัมผัส โดยใช้เทียนไขลนไฟให้อ่อนตัว หรือข้าวเหนียวคลึงจนเนื้อข้าวเหนียวกลืนกัน แล้วนำมาคลึงบริเวณที่สัมผัสขนหลายๆ ครั้งจนหมด หากยังมีอาการแดงร้อนหรือคันอยู่ให้ทาคาลาไมน์โลชั่น หรือครีมสเตียรอยด์ พร้อมกับรับประทานยาแก้แพ้ เช่น คลอเฟนิรามีน 4 มก. ครั้งละ 1 เม็ดทุก 6 ชม. จนเป็นปกติ [2]